Nokia อาจเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกสำหรับใครหลาย ๆ คน (รวมทั้งตัวผมเองด้วย) เมื่อหลายสิบปีก่อน Nokia เป็นแบรนด์ที่ดังแบบระเบิดในไทย เรียกได้ว่าซื้อขายแลกเปลี่ยนราคาไม่ตกต้อง Nokia เท่านั้น (อาจดังกว่า iPhone ในยุคนี้ด้วยซ้ำ) ในวันนี้ถึงแม้ว่ากิจการส่วนใหญ่จะขายให้กับ Microsoft ไปแล้วก็ตาม
ประวัติศาสตร์ของโนเกีย
เมื่อราว 150 ปีที่แล้วในช่วงปี 1865 โนเกีย (Nokia) เป็นเพียงโรงงานผลิตเยื่อไม้ในประเทศฟินแลนด์ ใกล้กับแม่น้ำแห่งหนึ่งโดยเริ่มจากการทำกระดาษส่งขายให้กับรัสเซีย, อังกฤษและฝรั่งเศษ และหลังจากนั้นก็เริ่มผลิตอุตสาหกรรมยางรถยนต์ (ปัจจุบันคุณสามารถดู Nokian ได้จากยางรถยนต์)หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงโนเกียก็ได้ทำการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการซื้อกิจการ Finnish Cable Works (ธุรกิจเคเบิ้ลและสายโทรศัพท์) จุดนี้เองที่เป็นความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจของโนเกียเอง
ต่อมาทั้งสามบริษัทก็ได้รวมกลุ่มกันเป็น Nokia Group และเริ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จุดนี้เองที่เป็นรากฐานที่ยิ่งใหญ่ให้กับโนเกียตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในปี 1990 จนรุ่งเรืองสุดขีดถึงปี 2000 และเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ (ปัจจุบันธุรกิจมือถือได้ขายให้ Microsoft เกือบหมดแล้ว)
ในปัจจุบันโนเกียเองมีพนักงานกว่า 50,000 คน ถึงแม้ว่าจะไม่รุ่งเรืองเหมือนกับในอดีต แต่ก็ยังดำเนินธุรกิจอีก 3 ตัวใหญ่ ๆ ซึ่งนั่นก็คือ
- ธุรกิจเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการ (Nokia Solutions and Networks)
- ธุรกิจให้บริการแผนที่ (HERE Maps)
- ธุรกิจด้านสิทธิบัตรทางเทคโนโลยี
ข้อคิดจากโนเกีย
จะเห็นได้ว่าในโลกของธุรกิจนั้นไม่มีอะไรแน่นอน ต้องมีการปรับตัวกันตลอดเวลา วันหนึ่งขายกระดาษอีกวันหนึ่งอาจเป็นผู้นำด้านมือถือระดับโลก และโลกนี้ก็ไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไป เพราะวันนึงก็อาจจำเป็นต้องขายกิจการบางส่วนเพื่อความอยู่รอดไม่ต่างจาก Kodak ที่คิดค้นและผลิตกล้องดิจิตอลได้เป็นตัวแรกของโลก แต่ตัวบริษัทยึดติดอยู่กับรูปแบบฟิล์มจนทำให้ในปัจจุบันกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว จนต้องประกาศล้มละลายในปี 2012 พร้อมทั้งเลิกผลิตกล้อง และมุ่งเน้นไปทำตลาดการบริการภาพถ่ายดิจิตอลแทน
ที่มา - phonearena
แสดงความคิดเห็น