ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด แต่ความผูกพันธ์ของมนุษย์กับหนังสือล้วนไม่เปลี่ยนเลย มันไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่อง ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ แถมยังมีกลิ่นอายของกระดาษ เมื่อได้สัมผัสในแต่ละหน้า และต่อไปนี้คือเรื่องราวของ Nobuo Okano ชายญี่ปุ่นผู้รักหนังสือ และมีประสบการณ์ซ่อมหนังสือมากว่า 30 ปี
ประสบการณ์ช่างซ่อมหนังสือ (ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอาชีพนี้ด้วย) ของ Nobuo Okano ช่างซ่อมหนังสือผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี วันหนึ่งเขาได้รับโจทย์ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ของลูกค้าคนสำคัญท่านหนึ่ง ในการซ่อมดิกชันนารีภาษาญี่ปุ่น-อังกฤษ (JP-EN) ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงทิ้งไปแล้ว
...
..
.
เว้นเสียแต่ว่ามีความทรงจำที่สำคัญอยู่ในนั้น
ลูกค้าท่านหนึ่งเคยได้รับดิกชันนารีเล่มนี้สมัยเมื่อยังเด็ก เพื่อใช้ในการเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ไปจนกระทั่งเรียนจบและเข้าทำงาน บัดนี้ลูกสาวเขาได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จึงถึงเวลาที่พ่อจะต้องส่งมอบของขวัญอันมีคุณค่าให้กับลูกสาว ผ่านดิกชันนารีเก่า ๆ เล่มนี้
เริ่มการซ่อมแซมได้
Nobuo Okano เริ่มซ่อมด้วยการถอดสันออก แล้วไสเอากาวออกไปอย่างปราณีต ซึ่งวิธีนี้ต้องใช้ความชำนาญค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากมันอาจไปกินเนื้อหนังสือ หรือทำหนังสือเสียรูปได้จากนั้นเริ่มแกะหน้าที่ขาดหรือสภาพย่ำแย่ เอามาแปะลงบนกระดาษแผ่นใหม่อีกที (ตรงส่วนนี้คือแผนที่)
หนังสือนั้นมีรอยพับจากการเปิด และย่นไปตามกาลเวลา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความชื้นนั่นเอง
เขาค่อยใช้ที่หนีบคีบทีละแผ่นออกมาให้ตรงเหมือนเดิม จากนั้นจึงทำการรีดด้วยความร้อนทีละแผ่น
ทำการตกแต่งมุมเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม
จุดสำคัญอยู่ตรงที่สีที่เลอะบริเวณขอบรอบนอก หลายคนอาจสงสัยว่าเขาจะมีวิธีจัดการอย่างไร?
คำตอบก็คือ "ตัด" เอาเนื้อบริเวณด้านนอกออก ซึ่งก็เป็นวิธีที่ดี (ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้จะซ่อมยังไงเหมือนกัน) แน่นอนว่าการตัดก็ต้องวัดและอาศัยประสบการณ์พอสมควร
สุดท้ายก็ทำการห่อหน้าปกใหม่และสันกาว แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม 100% แต่มันก็ช่วยชุบชีวิตหนังสือเก่า ๆ ให้ย้อนกลับคืนมาใช้งานได้ดีดังเดิม Nobuo Okano ไม่เพียงเป็นแค่ช่างซ่อมหนังสือ แต่เขาสามารถส่งต่อความทรงจำให้กับผู้อื่นได้อีกมากมาย
... เห็นใครเห็นหนังสือเก่าแล้วนึกเสียดาย ลองเอามาซ่อมดูบ้างก็ไม่เสียหายครับ
เพราะหนังสือเก่านั้นมีคุณค่ากว่าหนังสือใหม่เยอะเลย ...
ที่มา - karapaia.livedoor.biz
แสดงความคิดเห็น